♻ หุ่นยนต์ในงานอุตสาหกรรม 📰
1. หุ่นยนต์ที่นิยมใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม
‘Cobot’
หุ่นยนต์โรงงานอุตสาหกรรมที่มาแทนที่มนุษย์ ?
‘Cobot’
หุ่นยนต์ผู้ช่วยของมนุษย์ในโรงงานอุตสาหกรรม
VIDEO
เมื่อปี
ค.ศ. 1961
ได้ก่อกำเนิดหุ่นยนต์ที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมตัวแรกของโลก
ซึ่งถูกคิดค้นโดยนายจอร์จ ดีวอล ( George Devol) นักประดิษฐ์ชาวอเมริกัน
เพื่อให้หุ่นยนต์ได้ทำงานที่อันตรายแทนมนุษย์ในโรงงานประกอบรถยนต์
แต่ปัจจุบันนี้เทคโนโลยีได้ก้าวกระโดดไปได้ไกลมากขึ้น
มนุษย์ได้คิดค้นและสร้างหุ่นยนต์ในโรงงานอุตสาหกรรมที่เป็นเพื่อนร่วมงานของมนุษย์
นั่นก็คือ ‘ Cobot’ หุ่นยนต์ที่สามารถทำงานร่วมกันกับมนุษย์ได้อย่างเฉลียวฉลาดและมีประสิทธิภาพ
Cobot
คืออะไร
โคบอท
หรือ Collaborative
Robots คือหุ่นยนต์ในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีรูปร่างเป็นแขนกลที่ทำงานหยิบจับจัดเรียงชิ้นส่วนต่างๆและหน้าที่ผลิตชิ้นส่วนต่างๆที่มีขนาดเล็กและต้องการความละเอียด
ซึ่ง Cobot จะมีระบบเซ็นเซอร์ที่ล้ำสมัย
สามารถตรวจวัดและผลิตชิ้นงานที่มีความละเอียดสูงได้หลายๆชิ้นตามสเกลที่กำหนดไว้โดยปราศจากข้อผิดพลาด
โดยโคบอทมีความแตกต่างจากหุ่นยนต์หรือโรบอททั่วไปคือโคบอทมีน้ำหนักเบาและขนาดไม่เทอะทะ
สามารถเคลื่อนย้ายไปยังจุดต่างๆในโรงงานได้อย่างสะดวกสบาย
โดยโคบอทถูกใช้อย่างมากในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงและอันตรายต่อมนุษย์ เช่น
เคมีภัณฑ์ ยา อิเล็กทรอนิกส์และรถยนต์
Cobot
มาเพื่อแทนที่ของมนุษย์ ?
ปัจจุบันนี้
หุ่นยนต์โคบอทยังไม่มีความฉลาดเทียบเท่ามนุษย์และยังไม่มีระบบปัญญาประดิษฐ์
โคบอทจึงไม่สามารถมาแทนที่ของมนุษย์ในโรงงานอุตสาหกรรมได้
โคบอทจึงเป็นเพื่อนร่วมงานตัวหนึ่งซึ่งช่วยให้มนุษย์ทำงานต่างๆที่ต้องใช้ความละเอียดและต้องการกำลังการผลิตสูง
เปรียบเสมือนมือขวาขอมนุษย์ซึ่งทำงานเชื่อมและประกอบชิ้นส่วนต่างๆที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้
หุ่นยนต์โคบอททำอะไรได้บ้าง
โดยปัจจุบันนี้มีหุ่นยนต์โคบอทตัวหนึ่งซึ่งเป็นแขนกลที่ทำหน้าที่เชื่อมและประกอบชิ้นส่วนในโรงงานอุตสาหกรรม
นั่นก็คือโคบอทรุ่น UR3 ที่สร้างและพัฒนาโดยบริษัท
Universal Robots โดยหุ่นยนต์โคบอทรุ่นนี้มีระบบเซ็นเซอร์ที่ล้ำสมัย
ทำงานเชื่อมและประกอบได้อย่างมีประสิทธิภาพสามารถตรวจจับและวัดขนาดได้แม่นยำกว่ามนุษย์
และหุ่นนบนต์โคบอทรุ่น UR5 ที่ทำงานจับวางและทดสอบชิ้นงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำงานได้เร็วกกว่ามนุษย์ถึง
18 เท่าต่อครั้ง
2. หุ่นยนต์ประกอบชิ้นงานหรือชิ้นส่วน รถยนต์
VIDEO
อุตสาหกรรมยานยนต์ได้ใช้ หุ่นยนต์อุตสาหกรรม มานานกว่าครึ่งศตวรรษแล้ว ตั้งแต่ที่ General Motors นำ UNIMATE มาใช้ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1960 หลังจากนั้น
การนำหุ่นยนต์มาใช้ในการทำงานด้วยระบบอัตโนมัติก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมาก เทคโนโลยีหุ่นยนต์ ได้ปรับปรุงให้หุ่นยนต์มีต้นทุนที่ต่ำลง มีความยืดหยุ่น
เสริมระบบการทำงานร่วมกันและแทนที่หุ่นยนต์แบบดั้งเดิมที่ยุ่งยากและไม่ยืดหยุ่น
การใช้หุ่นยนต์ช่วยให้ผู้ผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์สามารถเร่งการผลิต
ลดต้นทุน ปรับปรุงคุณภาพ และป้องกันคนงานจากอันตราย หุ่นยนต์ทำงานร่วม (หรือ 'โคบอท ') ได้สร้างความเป็นไปได้ใหม่ ๆ
ให้กับผู้ผลิตรถยนต์
รวมถึงความสามารถในการปรับใช้โคบอทในการทำงานที่ใกล้ชิดกับมนุษย์โดยไม่ต้องมีรั้วกั้น
โคบอทช่วยให้ผู้ผลิตสามารถปลดปล่อยคนงานจากงานที่น่าเบื่อ สกปรก และอันตรายได้
นอกจากนี้ โคบอท ยังพร้อมทำงานทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง 365 วัน ไม่เว้นวันหยุด
หุ่นยนต์อุตสาหกรรมถูกใช้งานที่ไหน ?
มีอุตสาหกรรมน้อยมากที่ไม่ได้รับประโยชน์จากการใช้ระบบอัตโนมัติ
นับตั้งแต่ที่ GM ได้ใช้หุ่นยนต์ผลิตยานยนต์ตัวแรกในสายการผลิต
โรงงานและคลังสินค้าอื่น ๆ นับไม่ถ้วนก็ได้นำเทคโนโลยีหุ่นยนต์มาใช้
หุ่นยนต์ในอุตสาหกรรมเหล่านี้รวมถึงภาคเภสัชกรรม , การผลิตทั่วไป ,
การแพทย์และการเกษตร โคบอทของ Universal Robots เป็นแพลตฟอร์มอเนกประสงค์ที่สามารถปรับใช้งานได้อย่างหลากหลายในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน
ข้อจำกัดเพียงอย่างเดียวคือ น้ำหนักบรรทุก , ข้อกำหนดด้านความปลอดภัย
และจินตนาการของคุณ
หุ่นยนต์อุตสาหกรรมทำงานอะไร ?
หุ่นยนต์อุตสาหกรรมในการผลิตสามารถทำงานได้หลากหลาย
ตั้งแต่การขนถ่ายวัสดุ , การหยิบและวาง ,การตรวจสอบ , การประกอบ , การบรรจุ ,
การจัดเรียงพาเลท , ไปจนถึงการตกแต่งชิ้นส่วน
หุ่นยนต์ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สามารถทำงานซ้ำ ๆ
และบรรเทาแรงงานมนุษย์จากงานที่ต้องใช้กำลังมาก
หุ่นยนต์สามารถติดตั้งแมชชีนวิชั่นและระบบปัญญาประดิษฐ์ที่ช่วยให้ตอบสนองต่อสถานการณ์ต่าง
ๆ พร้อมให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับประสิทธิภาพของระบบแบบเรียลไทม์
โคบอทในสายการผลิตยานยนต์
ปัญหาบางประการที่สายการประกอบยานยนต์ต้องเผชิญ
ที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนที่สุด ได้แก่
โอกาสที่คนงานจะได้รับบาดเจ็บจากการทำงาน เวลาในการผลิตช้า
และปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย
ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้โดยการใช้หุ่นยนต์อัตโนมัติ
ตัวอย่างเช่น Continental ในประเทศสเปน ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ ใช้โคบอท UR10 เพื่อดำเนินการจัดการและตรวจสอบบอร์ด PCB และส่วนประกอบในระหว่างกระบวนการผลิต
โคบอท
UR10
ช่วยให้โรงงานผลิตในโรมาเนียของฟอร์ดสามารถส่งมอบงานที่เร็วขึ้น
ขณะเดียวกันก็ช่วยพนักงานจากการทำงานที่ซ้ำซากจำเจ
แขนกล จัดการกับงานทางกายภาพเกือบทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการสร้างรถยนต์ได้
นอกจากนี้ยังมีโอกาสมากมายที่หุ่นยนต์จะช่วยในงานที่ต้องใช้การตัดสินใจ เช่น
การตรวจสอบคุณภาพว่าผ่าน/ไม่ผ่าน
เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายมีคุณภาพดีพอ
6
ประเภทการทำงานหลักของโคบอทในภาคการผลิตยานยนต์มีอะไรบ้าง ?
เรามาดูตัวอย่างบางส่วนของโคบอทในการผลิตยานยนต์กัน
การทำงานหกประเภทหลัก ได้แก่ การประกอบ , การลงสี ,
การเชื่อม , การหยิบจับชิ้นงานเข้าเครื่องจักร ,
การกำจัดเศษวัสดุและการขัดเงา , และการตรวจสอบคุณภาพ
ก่อนจะมีแขนหุ่นยนต์ ผู้ผลิตต้องใช้หุ่นยนต์ตัวอื่นเพื่อทำงานแต่ละอย่างเหล่านี้
ทุกวันนี้ แขนหุ่นยนต์โคบอทเพียงตัวเดียวจาก Universal Robots สามารถทำงานเหล่านี้ทั้งหมดได้ง่าย ๆ
เพียงติดตั้งอุปกรณ์ปลายแขนที่เหมาะสมจาก แพลตฟอร์ม UR+
การประกอบ
โคบอทมีบทบาทสำคัญในโรงงานผลิตรถยนต์หลายแห่ง
นั่นรวมไปถึงการประกอบชิ้นส่วน
หุ่นยนต์อัตโนมัติสามารถจัดการกับงานที่ซ้ำซากจำเจในสายการผลิตได้ เช่น
การติดที่จับประตูและที่ปัดน้ำฝน
ซึ่งช่วยให้พนักงานที่เป็นมนุษย์มีอิสระในการทำงานที่มีมูลค่ามากกว่า โคบอทที่มีน้ำหนักบรรทุกสูงกว่า
เช่น UR16e (น้ำหนักบรรทุก 16 กก./ 35.3 ปอนด์)
สามารถจัดการกับชิ้นส่วนที่มีขนาดใหญ่กว่าได้ เช่น ล้อ
ฝากระโปรงรถและฝากระโปรงหน้าเครื่องยนต์
Lear
Corporation ใช้โคบอท UR5 ที่มีความยืดหยุ่นและน้ำหนักเบา เพื่อช่วยในการประกอบเบาะรถยนต์ โคบอท UR5 มีขนาดเล็ก
( Ø 149 มม.) ทำให้สามารถทำงานได้ในพื้นที่แคบ เช่น
การช่วยประกอบเบาะรถยนต์และที่พักแขน ที่ Lear โคบอท UR5
สามารถขันสกรูได้ 8,500 ครั้งต่อวัน
ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเวลาในสายการผลิต Lear ใช้งานโคบอท
UR ตัวแรกในปี 2017 – วันนี้บริษัทมีหุ่นยนต์
UR 38 ตัวในโรงงานผลิตที่จีน
ซึ่งใช้สำหรับการขันสกรูเบาะรถยนต์ การตรวจสอบระบบไฟฟ้า การหยิบและวาง
และกระบวนการที่สำคัญอื่น ๆ
การลงสี
หุ่นยนต์พ่นสีได้กลายเป็นส่วนสำคัญของ การผลิตรถยนต์ หุ่นยนต์สามารถพ่นสีได้สม่ำเสมอและพร้อมใช้งานตลอดเวลา
ซึ่งไม่มีมนุษย์คนใดเทียบได้ นอกจากนี้ สีรถยนต์ยังเป็นพิษ
ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงอย่างมากต่อคนงานที่เป็นมนุษย์ งานต่าง ๆ เช่น
การลงสีได้อย่างสม่ำเสมอบนพื้นผิวขนาดใหญ่นั้นควรใช้ แขนหุ่นยนต์ จัดการดีที่สุด
เมื่อเวลาผ่านไป ความแม่นยำและประสิทธิภาพที่หุ่นยนต์มอบให้ในงานพ่นสี
จะช่วยลดต้นทุนการผลิตจากการสิ้นเปลืองสีน้อยลงและขจัดข้อผิดพลาดของมนุษย์
หุ่นยนต์กับงานเชื่อม
งานเชื่อมเหมาะอย่างยิ่งสำหรับโคบอท
เพราะเป็นอีกหนึ่งงานที่อันตรายและใช้เวลานาน โคบอทสามารถจัดการกับอาร์ค ,
TIG, เลเซอร์ , MIG, อัลตราโซนิก , พลาสม่า และการเชื่อมเฉพาะจุด รวมถึงการประสานและบัดกรี แพลตฟอร์ม UR+
มีฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการเริ่มต้นใช้งานการเชื่อมยานยนต์ของคุณ
ตัวอย่างเช่น ระบบการเชื่อม Olympus ของ UR เป็นโซลูชันการเชื่อมราคาประหยัดที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ขนาดเล็ก
การตั้งโปรแกรมงานเชื่อมของโคบอททำได้ง่ายโดยใช้ซอฟต์แวร์
URCap
ของ UR
การหยิบชิ้นงานเข้าเครื่องจักร
การหยิบชิ้นงานเข้าเครื่องจักรเป็นหนึ่งในงานที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วยหุ่นยนต์ทำงานร่วม
เพราะเป็นงานที่น่าเบื่อ มักจะสกปรก และบางครั้งก็อันตราย
ไม่น่าแปลกใจเลยที่การหยิบชิ้นงานเข้าเครื่องจักรได้กลายเป็นหนึ่งในการใช้งานที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับโคบอทในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
UR10
ที่ติดตั้งบนเพดานช่วยมนุษย์ในงานประกอบและหยิบชิ้นส่วนเข้าเครื่องจักรที่
Bajaj Auto ในอินเดีย
ตั้งแต่นั้นมา
Bajaj
Auto ได้ติดตั้งโคบอท 100 ตัวในโรงงานผลิต เพื่อช่วยเหลือพนักงานที่เป็นมนุษย์ในการหยิบชิ้นส่วนเข้าเครื่องจักรและงานประกอบ
บริษัทพยายามที่จะปรับปรุงมาตรฐานของรถสองล้อและเพิ่มความเร็วในการผลิต
หุ่นยนต์กับการกำจัดเศษวัสดุและขัดเงา
การกำจัดเศษวัสดุและการขัดชิ้นส่วนเป็นกระบวนการที่สำคัญในการผลิตรถยนต์
กระบวนการเหล่านี้รวมถึงการทำความสะอาดชิ้นส่วนยานยนต์ตลอดทางด้วยการตัดแต่งโลหะหรือขัดแม่พิมพ์เพื่อให้ผิวเรียบ
เช่นเดียวกับงานที่หลายอย่างในการผลิตรถยนต์ งานเหล่านี้ซ้ำซากและบางครั้งก็อันตราย
ซึ่งสร้างโอกาสในการทำงานให้กับหุ่นยนต์ ในงานกำจัดเศษวัสดุรวมถึงการเจียร ลบคม
กัด ขัด กำหนดเส้นทางงาน และเจาะ
ตัวอย่างเช่น ชุดตกแต่งของ Robotiq เป็นแพ็คเกจฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่มอบทุกสิ่งที่ผู้ผลิตจำเป็นต้องใช้
ในการเริ่มต้นงานตกแต่งพื้นผิว การขัด และการตกแต่งเครื่องมือภายนอก
ชุดอุปกรณ์ดังกล่าวประกอบด้วยซอฟต์แวร์ Finishing Copilot ของ
Robotiq ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สามารถตั้งโปรแกรมการตกแต่งที่ใช้งานง่าย
โดยผู้ใช้ปลายทางไม่จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญด้านหุ่นยนต์
หุ่นยนต์
UR
ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ทำงานได้อย่างยืดหยุ่นร่วมกับพนักงานที่เป็นมนุษย์
ทำให้หุ่นยนต์เหล่านี้เหมาะสมอย่างยิ่งกับเซลล์การทำงานและโรงงานผลิตที่ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ
และพื้นที่มีราคาแพง
การตรวจสอบคุณภาพ
กระบวนการตรวจสอบคุณภาพ สามารถสร้างความแตกต่างระหว่างการผลิตที่ประสบความสำเร็จกับความล้มเหลวที่มีราคาแพงและใช้แรงงานเยอะ
อุตสาหกรรมยานยนต์ใช้หุ่นยนต์อัตโนมัติเพื่อรับรองคุณภาพของผลิตภัณฑ์ UR+ นำเสนอฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่หลากหลายซึ่งออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อช่วยให้คุณทำงานตรวจสอบคุณภาพยานยนต์ได้โดยอัตโนมัติ
รวมถึงการตรวจสอบเพื่อความสวยงามและการวัด
3. หุ่นยนต์เก็บกู้ระเบิด
ในงาน
Open
House เปิดบ้านวิศวกรรมศาสตร์
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้
ได้มีการแถลงข่าวเปิดตัว ‘หุ่นยนต์เก็บกู้-ทำลายล้างระเบิดแสวงเครื่อง
รุ่น DYNA-T’ ที่คิดค้นและพัฒนาด้วยฝีมือของอาจารย์และนักศึกษาของคณะวิศวกรรมศาสตร์
โดยมี ผศ.มานพ คงคานิธิ อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกลและการบิน-อวกาศ
คณะวิศวกรรมศาสตร์ เป็นหัวหน้าโครงการพัฒนา และเป็นโปรเจ็กต์สำคัญที่เกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
และกรมสรรพาวุธทหารบก
VIDEO
รศ.ดร.อุดมเกียรติ
นนทแก้ว คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มพจ. กล่าวถึงความเป็นมาของหุ่นยนต์ดังกล่าวว่า
คณะวิศวกรรมศาสตร์ มจพ.
มีการพัฒนานวัตกรรมการสร้างหุ่นยนต์แบบแขนกลมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว
เห็นได้จากงานอินโนเวชั่นโชว์เคสต่างๆ
รวมถึงกิจกรรมของนักศึกษาที่สร้างชื่อเสียงให้กับสถาบัน
ก็คือการร่วมแข่งขันหุ่นยนต์กู้ภัยโลก World Robocup Rescue ซึ่งคว้าแชมป์มาได้หลายครั้ง
และจากที่ได้มีโอกาสทำงานทางด้านพัฒนานวัตกรรมเพื่อความมั่นคงกับหน่วยงานภาครัฐ
เมื่อประสานกับองค์ความรู้เทคโนโลยีด้านหุ่นยนต์
จึงเกิดเป็นความร่วมมือในการพัฒนาหุ่นยนต์เพื่อมาทำหน้าที่ดูแลความมั่นคงของประเทศ
ทั้งนี้
การเก็บกู้ทำลายระเบิดแสวงเครื่องก่อการร้ายถือเป็นภารกิจที่มีความเสี่ยงสูง
จึงมีการออกแบบหุ่นยนต์ควบคุมระยะไกลพร้อมกับพัฒนาระบบปืนยิงน้ำแรงดันสูงหรือวอเตอร์แคนนอนซึ่งมีพลังทำลายล้างสูง
ไร้แรงสะท้อนกลับ
ใช้งานได้เทียบเท่าหรือดีกว่าของต่างประเทศในขณะที่ราคาถูกกว่าเกือบสิบเท่า
4.
หุ่นยนต์อัจฉริยะ
Boston
Dynamics กับความเป็นมนุษย์ที่อาจจะถูกวัดในอนาคต
นับเป็นเวลาหลายทศวรรษที่เทคโนโลยีหุ่นยนต์พยายามเข้ามามีบทบาทและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรา
โดยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ทั้งตัวระบบการประมวลผล และฟังก์ชันการทำงาน
เรียกได้ว่าเตรียมขึ้นเป็นแรงงานที่มีศักยภาพได้เทียบเท่ามนุษย์ เช่น
การคำนวณเชิงตรรกะ การเลียนแบบพฤติกรรมพื้นฐานของมนุษย์ อย่างการเดิน วิ่ง
ล้มแล้วลุกด้วยตัวเอง ยกของ เป็นต้น
ซึ่งฟังก์ชันพฤติกรรมที่เหมือนมนุษย์เหล่านั้นจะถูกประยุกต์ให้ทดแทนการทำงานของมนุษย์อย่างการขนของ
หรือการกู้ภัยในพื้นที่ที่เสี่ยงอันตราย
เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับมนุษย์เองและเสริมสร้างเรื่องของประสิทธิภาพในการทำงาน
ซึ่งปัจจุบันหุ่นยนต์ที่มีฟังก์ชันที่กล่าวถูกพัฒนาขึ้นแล้วโดยบริษัท Boston
Dynamics ผู้เชียวชาญด้านการพัฒนาหุ่นยนต์ผนวกเข้ากับเทคโนโลยีสมองกลอัจฉริยะอย่าง
A.I. เพื่อช่วยในการก้าวข้ามขีดจำกัดการทำงานในอดีตให้สูงขึ้น
ชื่อของ
Boston
Dynamics ถูกพูดถึงกันอย่างหนาหูในช่วงไม่กี่ปีมานี้
จากคลิปวิดีโอผลงานที่ทางบริษัทได้ปล่อยออกมาเอง
ไม่ว่าจะเป็นหุ่นยนต์รูปร่างคล้ายมนุษย์ Atlas ที่โชว์ความสามารถในการวิ่ง
กระโดดและตีลังกาหลังได้ ซึ่งทำได้ออกมาเกือบจะเป็นธรรมชาติอย่างมาก
หรือหุ่นยนต์รูปร่างคล้ายสุนัข Spot ที่สร้างความตื่นเต้นคนที่พบเห็นกับความสามารถในการเปิดประตู
ปอกเปลือกกล้วย ช่วยขนของ และสำรวจพื้นที่ คาดว่าในอนาคต
เจ้าหุ่นยนต์เหล่านี้จะกลายเป็นผู้ช่วยของมนุษย์ได้อย่างดีเยียมในโลกของอุตสาหกรรมแรงงาน
สิ่งที่เราจะมาชวนคุย
ไม่ใช่เรื่องความน่ายินที่ Boston Dynamics เป็นคนทำ
กลับเป็นอนาคตที่กำลังจะตามมากับการใช้ชีวิตของมนุษย์ร่วมกันกับหุ่นยนต์ว่ากำลังจะดำเนินไปในทิศทางไหน
ความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดขึ้น เมื่อเราผนวกเอาอารยธรรม
และองค์ความรู้ทุกอย่างลงไปในสมองกลและติดตั้งให้กับหุ่นยนต์เหล่านี้
เพื่อหวังจะให้มาคอยช่วยเหลือมนุษย์ หรืออาจจะได้ผลลัพธ์ที่ตรงกันข้ามแทนกันแน่
แต่ก่อนหน้าที่เราจะพูดถึงเรื่องนั้น
เรามาทำความรู้จักบริษัทนี้กันพอสังเขปกันก่อนดีกว่า ว่ามีความเป็นมาอย่างไร
และมีการพัฒนาอะไรมาบ้างก่อนจะมาถึงปัจจุบัน
ทำความรู้จักกับ
Boston
Dynamics
VIDEO
Boston
Dynamics บริษัทสัญชาติอเมริกัน ที่งานหลักคือการวิจัย ออกแบบ
และพัฒนาหุ่นยนต์ ก่อตั้งเมื่อปี 1992 ที่เกิดจากการวิจัยเล็ก
ๆ ที่สถาบันเทคโนโลยี MIT และภายหลังแยกตัวออกมาเป็นบริษัท
ปัจจุบันเป็นหนึ่งในบริษัทลูกของบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นอย่าง SoftBank
เราลองมาดูผลงานตัวอย่างของบริษัท
Boston
Dynamics โดยผู้เขียนจะยกมาบางส่วนเพื่อให้เห็นถึงผลงานแต่ละอย่างก่อนจะมาเป็น
Atlas และ Spot ที่เราเห็นในปัจจุบัน
Atlas
มาถึงตัวเอกของงานอย่าง
Atlas
หุ่นยนย์รูปร่างมนุษย์ที่ถูกพูดถึงกันมากที่สุดจากทุกผลงานของ Boston
ที่ไม่เพียงแต่เดิน กระโดด ปีน หรือใช้มือในการบีบจับ
แต่ยังสามารถแสดงพฤติกรรมที่คล้ายกับอารมณ์โกรธแบบเดียวกับมนุษย์ออกมาได้อีกด้วย
ซึ่งในอนาคตจะถูกใช้เป็นหุ่นยนต์ด้านกู้ภัยและค้นหาคนหาย
🏥 ข้อมูลและวีดีโอที่น่าสนใจของหุ่นยนต์ในงานอุตสาหกรรม Xiaoyi หุ่นยนต์ตัวแรกที่สอบผ่านใบอนุญาตทางการแพทย์
Xiaoyi
(เสี่ยวยี่) เป็น AI ตัวแรกที่สอบผ่านใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแพทย์ของจีน
สามารถทำคะแนนสอบได้ 456 คะแนน จากคะแนนเต็ม 600 คะแนน สูงกว่าเกณฑ์ผ่านถึง 96 คะแนน
VIDEO
หนึ่งในทีมผู้คิดค้นระบุว่า
Xiaoyi
สามารถเก็บข้อมูลได้มากกว่ามนุษย์ ทั้งตำราเรียนแพทย์หลายสิบเล่ม
เวชระเบียนข้อมูลสุขภาพของผู้ป่วยกว่า 2 ล้านชิ้น
และบทความเกี่ยวกับการทดสอบการเป็นแพทย์กว่า 400,000 บทความ
ประกอบกับการเป็นปัญญาประดิษฐ์ ทำให้ Xiaoyi สามารถเรียนรู้
ใช้เหตุผล และตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง
Xiaoyi
ถูกพัฒนาขึ้นโดยมหาวิทยาลัยชิงหวาในกรุงปักกิ่ง และบริษัท iFlytek
บริษัทด้านเทคโนโลยีของจีน
เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมด้านสุขภาพ เช่น
การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลผู้ป่วย
และให้คำแนะนำแพทย์เพื่อช่วยให้วินิจฉัยโรคได้แม่นยำขึ้น