14 มีนาคม 2565

หุ่นยนต์ในงานอุตสาหกรรม

 

♻ หุ่นยนต์ในงานอุตสาหกรรม 📰

1. หุ่นยนต์ที่นิยมใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม

‘Cobot’ หุ่นยนต์โรงงานอุตสาหกรรมที่มาแทนที่มนุษย์?

‘Cobot’ หุ่นยนต์ผู้ช่วยของมนุษย์ในโรงงานอุตสาหกรรม


เมื่อปี ค.ศ.1961 ได้ก่อกำเนิดหุ่นยนต์ที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมตัวแรกของโลก ซึ่งถูกคิดค้นโดยนายจอร์จ ดีวอล (George Devol) นักประดิษฐ์ชาวอเมริกัน เพื่อให้หุ่นยนต์ได้ทำงานที่อันตรายแทนมนุษย์ในโรงงานประกอบรถยนต์ แต่ปัจจุบันนี้เทคโนโลยีได้ก้าวกระโดดไปได้ไกลมากขึ้น มนุษย์ได้คิดค้นและสร้างหุ่นยนต์ในโรงงานอุตสาหกรรมที่เป็นเพื่อนร่วมงานของมนุษย์ นั่นก็คือ ‘Cobot’ หุ่นยนต์ที่สามารถทำงานร่วมกันกับมนุษย์ได้อย่างเฉลียวฉลาดและมีประสิทธิภาพ 



Cobot คืออะไร

โคบอท หรือ Collaborative Robots คือหุ่นยนต์ในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีรูปร่างเป็นแขนกลที่ทำงานหยิบจับจัดเรียงชิ้นส่วนต่างๆและหน้าที่ผลิตชิ้นส่วนต่างๆที่มีขนาดเล็กและต้องการความละเอียด ซึ่ง Cobot จะมีระบบเซ็นเซอร์ที่ล้ำสมัย สามารถตรวจวัดและผลิตชิ้นงานที่มีความละเอียดสูงได้หลายๆชิ้นตามสเกลที่กำหนดไว้โดยปราศจากข้อผิดพลาด โดยโคบอทมีความแตกต่างจากหุ่นยนต์หรือโรบอททั่วไปคือโคบอทมีน้ำหนักเบาและขนาดไม่เทอะทะ สามารถเคลื่อนย้ายไปยังจุดต่างๆในโรงงานได้อย่างสะดวกสบาย โดยโคบอทถูกใช้อย่างมากในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงและอันตรายต่อมนุษย์ เช่น เคมีภัณฑ์ ยา อิเล็กทรอนิกส์และรถยนต์


Cobot มาเพื่อแทนที่ของมนุษย์?

ปัจจุบันนี้ หุ่นยนต์โคบอทยังไม่มีความฉลาดเทียบเท่ามนุษย์และยังไม่มีระบบปัญญาประดิษฐ์ โคบอทจึงไม่สามารถมาแทนที่ของมนุษย์ในโรงงานอุตสาหกรรมได้ โคบอทจึงเป็นเพื่อนร่วมงานตัวหนึ่งซึ่งช่วยให้มนุษย์ทำงานต่างๆที่ต้องใช้ความละเอียดและต้องการกำลังการผลิตสูง เปรียบเสมือนมือขวาขอมนุษย์ซึ่งทำงานเชื่อมและประกอบชิ้นส่วนต่างๆที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้ 


หุ่นยนต์โคบอททำอะไรได้บ้าง

โดยปัจจุบันนี้มีหุ่นยนต์โคบอทตัวหนึ่งซึ่งเป็นแขนกลที่ทำหน้าที่เชื่อมและประกอบชิ้นส่วนในโรงงานอุตสาหกรรม นั่นก็คือโคบอทรุ่น UR3 ที่สร้างและพัฒนาโดยบริษัท Universal Robots โดยหุ่นยนต์โคบอทรุ่นนี้มีระบบเซ็นเซอร์ที่ล้ำสมัย ทำงานเชื่อมและประกอบได้อย่างมีประสิทธิภาพสามารถตรวจจับและวัดขนาดได้แม่นยำกว่ามนุษย์ และหุ่นนบนต์โคบอทรุ่น UR5 ที่ทำงานจับวางและทดสอบชิ้นงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำงานได้เร็วกกว่ามนุษย์ถึง 18 เท่าต่อครั้ง


2.  หุ่นยนต์ประกอบชิ้นงานหรือชิ้นส่วน รถยนต์


อุตสาหกรรมยานยนต์ได้ใช้หุ่นยนต์อุตสาหกรรมมานานกว่าครึ่งศตวรรษแล้ว ตั้งแต่ที่ General Motors นำ UNIMATE มาใช้ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1960 หลังจากนั้น การนำหุ่นยนต์มาใช้ในการทำงานด้วยระบบอัตโนมัติก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมาก เทคโนโลยีหุ่นยนต์ได้ปรับปรุงให้หุ่นยนต์มีต้นทุนที่ต่ำลง มีความยืดหยุ่น เสริมระบบการทำงานร่วมกันและแทนที่หุ่นยนต์แบบดั้งเดิมที่ยุ่งยากและไม่ยืดหยุ่น

การใช้หุ่นยนต์ช่วยให้ผู้ผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์สามารถเร่งการผลิต ลดต้นทุน ปรับปรุงคุณภาพ และป้องกันคนงานจากอันตราย หุ่นยนต์ทำงานร่วม (หรือ 'โคบอท') ได้สร้างความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ให้กับผู้ผลิตรถยนต์ รวมถึงความสามารถในการปรับใช้โคบอทในการทำงานที่ใกล้ชิดกับมนุษย์โดยไม่ต้องมีรั้วกั้น โคบอทช่วยให้ผู้ผลิตสามารถปลดปล่อยคนงานจากงานที่น่าเบื่อ สกปรก และอันตรายได้ นอกจากนี้ โคบอทยังพร้อมทำงานทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง 365 วัน ไม่เว้นวันหยุด 

หุ่นยนต์อุตสาหกรรมถูกใช้งานที่ไหน?

มีอุตสาหกรรมน้อยมากที่ไม่ได้รับประโยชน์จากการใช้ระบบอัตโนมัติ นับตั้งแต่ที่ GM ได้ใช้หุ่นยนต์ผลิตยานยนต์ตัวแรกในสายการผลิต โรงงานและคลังสินค้าอื่น ๆ นับไม่ถ้วนก็ได้นำเทคโนโลยีหุ่นยนต์มาใช้ หุ่นยนต์ในอุตสาหกรรมเหล่านี้รวมถึงภาคเภสัชกรรม, การผลิตทั่วไป, การแพทย์และการเกษตร โคบอทของ Universal Robots เป็นแพลตฟอร์มอเนกประสงค์ที่สามารถปรับใช้งานได้อย่างหลากหลายในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน ข้อจำกัดเพียงอย่างเดียวคือ น้ำหนักบรรทุก, ข้อกำหนดด้านความปลอดภัย และจินตนาการของคุณ

หุ่นยนต์อุตสาหกรรมทำงานอะไร?

หุ่นยนต์อุตสาหกรรมในการผลิตสามารถทำงานได้หลากหลาย ตั้งแต่การขนถ่ายวัสดุ, การหยิบและวาง,การตรวจสอบ, การประกอบ, การบรรจุ, การจัดเรียงพาเลท, ไปจนถึงการตกแต่งชิ้นส่วน หุ่นยนต์ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สามารถทำงานซ้ำ ๆ และบรรเทาแรงงานมนุษย์จากงานที่ต้องใช้กำลังมาก หุ่นยนต์สามารถติดตั้งแมชชีนวิชั่นและระบบปัญญาประดิษฐ์ที่ช่วยให้ตอบสนองต่อสถานการณ์ต่าง ๆ พร้อมให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับประสิทธิภาพของระบบแบบเรียลไทม์

โคบอทในสายการผลิตยานยนต์

ปัญหาบางประการที่สายการประกอบยานยนต์ต้องเผชิญ ที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนที่สุด ได้แก่ โอกาสที่คนงานจะได้รับบาดเจ็บจากการทำงาน เวลาในการผลิตช้า และปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้าย ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้โดยการใช้หุ่นยนต์อัตโนมัติ

ตัวอย่างเช่น Continental ในประเทศสเปน ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ ใช้โคบอท UR10 เพื่อดำเนินการจัดการและตรวจสอบบอร์ด PCB และส่วนประกอบในระหว่างกระบวนการผลิต


โคบอท UR10 ช่วยให้โรงงานผลิตในโรมาเนียของฟอร์ดสามารถส่งมอบงานที่เร็วขึ้น ขณะเดียวกันก็ช่วยพนักงานจากการทำงานที่ซ้ำซากจำเจ

แขนกลจัดการกับงานทางกายภาพเกือบทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการสร้างรถยนต์ได้ นอกจากนี้ยังมีโอกาสมากมายที่หุ่นยนต์จะช่วยในงานที่ต้องใช้การตัดสินใจ เช่น การตรวจสอบคุณภาพว่าผ่าน/ไม่ผ่าน เพื่อให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายมีคุณภาพดีพอ

6 ประเภทการทำงานหลักของโคบอทในภาคการผลิตยานยนต์มีอะไรบ้าง?

เรามาดูตัวอย่างบางส่วนของโคบอทในการผลิตยานยนต์กัน การทำงานหกประเภทหลัก ได้แก่ การประกอบ, การลงสี, การเชื่อม, การหยิบจับชิ้นงานเข้าเครื่องจักร, การกำจัดเศษวัสดุและการขัดเงา, และการตรวจสอบคุณภาพ ก่อนจะมีแขนหุ่นยนต์ ผู้ผลิตต้องใช้หุ่นยนต์ตัวอื่นเพื่อทำงานแต่ละอย่างเหล่านี้ ทุกวันนี้ แขนหุ่นยนต์โคบอทเพียงตัวเดียวจาก Universal Robots สามารถทำงานเหล่านี้ทั้งหมดได้ง่าย ๆ เพียงติดตั้งอุปกรณ์ปลายแขนที่เหมาะสมจากแพลตฟอร์ม UR+

การประกอบ

โคบอทมีบทบาทสำคัญในโรงงานผลิตรถยนต์หลายแห่ง นั่นรวมไปถึงการประกอบชิ้นส่วน หุ่นยนต์อัตโนมัติสามารถจัดการกับงานที่ซ้ำซากจำเจในสายการผลิตได้ เช่น การติดที่จับประตูและที่ปัดน้ำฝน ซึ่งช่วยให้พนักงานที่เป็นมนุษย์มีอิสระในการทำงานที่มีมูลค่ามากกว่า โคบอทที่มีน้ำหนักบรรทุกสูงกว่า เช่น UR16e (น้ำหนักบรรทุก 16 กก./35.3 ปอนด์) สามารถจัดการกับชิ้นส่วนที่มีขนาดใหญ่กว่าได้ เช่น ล้อ ฝากระโปรงรถและฝากระโปรงหน้าเครื่องยนต์

Lear Corporation ใช้โคบอท UR5 ที่มีความยืดหยุ่นและน้ำหนักเบาเพื่อช่วยในการประกอบเบาะรถยนต์ โคบอท UR5 มีขนาดเล็ก (Ø 149 มม.) ทำให้สามารถทำงานได้ในพื้นที่แคบ เช่น การช่วยประกอบเบาะรถยนต์และที่พักแขน ที่ Lear โคบอท UR5 สามารถขันสกรูได้ 8,500 ครั้งต่อวัน ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเวลาในสายการผลิต Lear ใช้งานโคบอท UR ตัวแรกในปี 2017 – วันนี้บริษัทมีหุ่นยนต์ UR 38 ตัวในโรงงานผลิตที่จีน ซึ่งใช้สำหรับการขันสกรูเบาะรถยนต์ การตรวจสอบระบบไฟฟ้า การหยิบและวาง และกระบวนการที่สำคัญอื่น ๆ

การลงสี

หุ่นยนต์พ่นสีได้กลายเป็นส่วนสำคัญของการผลิตรถยนต์ หุ่นยนต์สามารถพ่นสีได้สม่ำเสมอและพร้อมใช้งานตลอดเวลา ซึ่งไม่มีมนุษย์คนใดเทียบได้ นอกจากนี้ สีรถยนต์ยังเป็นพิษ ซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงอย่างมากต่อคนงานที่เป็นมนุษย์ งานต่าง ๆ เช่น การลงสีได้อย่างสม่ำเสมอบนพื้นผิวขนาดใหญ่นั้นควรใช้แขนหุ่นยนต์จัดการดีที่สุด เมื่อเวลาผ่านไป ความแม่นยำและประสิทธิภาพที่หุ่นยนต์มอบให้ในงานพ่นสี จะช่วยลดต้นทุนการผลิตจากการสิ้นเปลืองสีน้อยลงและขจัดข้อผิดพลาดของมนุษย์

หุ่นยนต์กับงานเชื่อม

งานเชื่อมเหมาะอย่างยิ่งสำหรับโคบอท เพราะเป็นอีกหนึ่งงานที่อันตรายและใช้เวลานาน โคบอทสามารถจัดการกับอาร์ค, TIG, เลเซอร์, MIG, อัลตราโซนิก, พลาสม่า และการเชื่อมเฉพาะจุด รวมถึงการประสานและบัดกรี แพลตฟอร์ม UR+ มีฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ทั้งหมดที่จำเป็นสำหรับการเริ่มต้นใช้งานการเชื่อมยานยนต์ของคุณ ตัวอย่างเช่น ระบบการเชื่อม Olympus ของ UR เป็นโซลูชันการเชื่อมราคาประหยัดที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ขนาดเล็ก


การตั้งโปรแกรมงานเชื่อมของโคบอททำได้ง่ายโดยใช้ซอฟต์แวร์ URCap ของ UR

การหยิบชิ้นงานเข้าเครื่องจักร

การหยิบชิ้นงานเข้าเครื่องจักรเป็นหนึ่งในงานที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วยหุ่นยนต์ทำงานร่วม เพราะเป็นงานที่น่าเบื่อ มักจะสกปรก และบางครั้งก็อันตราย ไม่น่าแปลกใจเลยที่การหยิบชิ้นงานเข้าเครื่องจักรได้กลายเป็นหนึ่งในการใช้งานที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับโคบอทในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา


UR10 ที่ติดตั้งบนเพดานช่วยมนุษย์ในงานประกอบและหยิบชิ้นส่วนเข้าเครื่องจักรที่ Bajaj Auto ในอินเดีย

ตั้งแต่นั้นมา Bajaj Auto ได้ติดตั้งโคบอท 100 ตัวในโรงงานผลิตเพื่อช่วยเหลือพนักงานที่เป็นมนุษย์ในการหยิบชิ้นส่วนเข้าเครื่องจักรและงานประกอบ บริษัทพยายามที่จะปรับปรุงมาตรฐานของรถสองล้อและเพิ่มความเร็วในการผลิต

หุ่นยนต์กับการกำจัดเศษวัสดุและขัดเงา

การกำจัดเศษวัสดุและการขัดชิ้นส่วนเป็นกระบวนการที่สำคัญในการผลิตรถยนต์ กระบวนการเหล่านี้รวมถึงการทำความสะอาดชิ้นส่วนยานยนต์ตลอดทางด้วยการตัดแต่งโลหะหรือขัดแม่พิมพ์เพื่อให้ผิวเรียบ เช่นเดียวกับงานที่หลายอย่างในการผลิตรถยนต์ งานเหล่านี้ซ้ำซากและบางครั้งก็อันตราย ซึ่งสร้างโอกาสในการทำงานให้กับหุ่นยนต์ ในงานกำจัดเศษวัสดุรวมถึงการเจียร ลบคม กัด ขัด กำหนดเส้นทางงาน และเจาะ

ตัวอย่างเช่น ชุดตกแต่งของ Robotiq เป็นแพ็คเกจฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่มอบทุกสิ่งที่ผู้ผลิตจำเป็นต้องใช้ ในการเริ่มต้นงานตกแต่งพื้นผิว การขัด และการตกแต่งเครื่องมือภายนอก ชุดอุปกรณ์ดังกล่าวประกอบด้วยซอฟต์แวร์ Finishing Copilot ของ Robotiq ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สามารถตั้งโปรแกรมการตกแต่งที่ใช้งานง่าย โดยผู้ใช้ปลายทางไม่จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญด้านหุ่นยนต์

หุ่นยนต์ UR ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้ทำงานได้อย่างยืดหยุ่นร่วมกับพนักงานที่เป็นมนุษย์ ทำให้หุ่นยนต์เหล่านี้เหมาะสมอย่างยิ่งกับเซลล์การทำงานและโรงงานผลิตที่ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ และพื้นที่มีราคาแพง

การตรวจสอบคุณภาพ

กระบวนการตรวจสอบคุณภาพสามารถสร้างความแตกต่างระหว่างการผลิตที่ประสบความสำเร็จกับความล้มเหลวที่มีราคาแพงและใช้แรงงานเยอะ อุตสาหกรรมยานยนต์ใช้หุ่นยนต์อัตโนมัติเพื่อรับรองคุณภาพของผลิตภัณฑ์ UR+ นำเสนอฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่หลากหลายซึ่งออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อช่วยให้คุณทำงานตรวจสอบคุณภาพยานยนต์ได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงการตรวจสอบเพื่อความสวยงามและการวัด

3. หุ่นยนต์เก็บกู้ระเบิด


ในงาน Open House เปิดบ้านวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ได้มีการแถลงข่าวเปิดตัว ‘หุ่นยนต์เก็บกู้-ทำลายล้างระเบิดแสวงเครื่อง รุ่น DYNA-T’ ที่คิดค้นและพัฒนาด้วยฝีมือของอาจารย์และนักศึกษาของคณะวิศวกรรมศาสตร์ โดยมี ผศ.มานพ คงคานิธิ อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกลและการบิน-อวกาศ คณะวิศวกรรมศาสตร์ เป็นหัวหน้าโครงการพัฒนา และเป็นโปรเจ็กต์สำคัญที่เกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา และกรมสรรพาวุธทหารบก


รศ.ดร.อุดมเกียรติ นนทแก้ว คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มพจ. กล่าวถึงความเป็นมาของหุ่นยนต์ดังกล่าวว่า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มจพ. มีการพัฒนานวัตกรรมการสร้างหุ่นยนต์แบบแขนกลมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว เห็นได้จากงานอินโนเวชั่นโชว์เคสต่างๆ รวมถึงกิจกรรมของนักศึกษาที่สร้างชื่อเสียงให้กับสถาบัน ก็คือการร่วมแข่งขันหุ่นยนต์กู้ภัยโลก World Robocup Rescue ซึ่งคว้าแชมป์มาได้หลายครั้ง และจากที่ได้มีโอกาสทำงานทางด้านพัฒนานวัตกรรมเพื่อความมั่นคงกับหน่วยงานภาครัฐ เมื่อประสานกับองค์ความรู้เทคโนโลยีด้านหุ่นยนต์ จึงเกิดเป็นความร่วมมือในการพัฒนาหุ่นยนต์เพื่อมาทำหน้าที่ดูแลความมั่นคงของประเทศ

ทั้งนี้ การเก็บกู้ทำลายระเบิดแสวงเครื่องก่อการร้ายถือเป็นภารกิจที่มีความเสี่ยงสูง จึงมีการออกแบบหุ่นยนต์ควบคุมระยะไกลพร้อมกับพัฒนาระบบปืนยิงน้ำแรงดันสูงหรือวอเตอร์แคนนอนซึ่งมีพลังทำลายล้างสูง ไร้แรงสะท้อนกลับ ใช้งานได้เทียบเท่าหรือดีกว่าของต่างประเทศในขณะที่ราคาถูกกว่าเกือบสิบเท่า


4. หุ่นยนต์อัจฉริยะ

Boston Dynamics กับความเป็นมนุษย์ที่อาจจะถูกวัดในอนาคต


นับเป็นเวลาหลายทศวรรษที่เทคโนโลยีหุ่นยนต์พยายามเข้ามามีบทบาทและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรา โดยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ทั้งตัวระบบการประมวลผล และฟังก์ชันการทำงาน เรียกได้ว่าเตรียมขึ้นเป็นแรงงานที่มีศักยภาพได้เทียบเท่ามนุษย์ เช่น การคำนวณเชิงตรรกะ การเลียนแบบพฤติกรรมพื้นฐานของมนุษย์ อย่างการเดิน วิ่ง ล้มแล้วลุกด้วยตัวเอง ยกของ เป็นต้น ซึ่งฟังก์ชันพฤติกรรมที่เหมือนมนุษย์เหล่านั้นจะถูกประยุกต์ให้ทดแทนการทำงานของมนุษย์อย่างการขนของ หรือการกู้ภัยในพื้นที่ที่เสี่ยงอันตราย เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับมนุษย์เองและเสริมสร้างเรื่องของประสิทธิภาพในการทำงาน ซึ่งปัจจุบันหุ่นยนต์ที่มีฟังก์ชันที่กล่าวถูกพัฒนาขึ้นแล้วโดยบริษัท Boston Dynamics ผู้เชียวชาญด้านการพัฒนาหุ่นยนต์ผนวกเข้ากับเทคโนโลยีสมองกลอัจฉริยะอย่าง A.I. เพื่อช่วยในการก้าวข้ามขีดจำกัดการทำงานในอดีตให้สูงขึ้น


ชื่อของ Boston Dynamics ถูกพูดถึงกันอย่างหนาหูในช่วงไม่กี่ปีมานี้ จากคลิปวิดีโอผลงานที่ทางบริษัทได้ปล่อยออกมาเอง ไม่ว่าจะเป็นหุ่นยนต์รูปร่างคล้ายมนุษย์ Atlas ที่โชว์ความสามารถในการวิ่ง กระโดดและตีลังกาหลังได้ ซึ่งทำได้ออกมาเกือบจะเป็นธรรมชาติอย่างมาก หรือหุ่นยนต์รูปร่างคล้ายสุนัข Spot ที่สร้างความตื่นเต้นคนที่พบเห็นกับความสามารถในการเปิดประตู ปอกเปลือกกล้วย ช่วยขนของ และสำรวจพื้นที่ คาดว่าในอนาคต เจ้าหุ่นยนต์เหล่านี้จะกลายเป็นผู้ช่วยของมนุษย์ได้อย่างดีเยียมในโลกของอุตสาหกรรมแรงงาน

สิ่งที่เราจะมาชวนคุย ไม่ใช่เรื่องความน่ายินที่ Boston Dynamics เป็นคนทำ กลับเป็นอนาคตที่กำลังจะตามมากับการใช้ชีวิตของมนุษย์ร่วมกันกับหุ่นยนต์ว่ากำลังจะดำเนินไปในทิศทางไหน ความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดขึ้น เมื่อเราผนวกเอาอารยธรรม และองค์ความรู้ทุกอย่างลงไปในสมองกลและติดตั้งให้กับหุ่นยนต์เหล่านี้ เพื่อหวังจะให้มาคอยช่วยเหลือมนุษย์ หรืออาจจะได้ผลลัพธ์ที่ตรงกันข้ามแทนกันแน่ แต่ก่อนหน้าที่เราจะพูดถึงเรื่องนั้น เรามาทำความรู้จักบริษัทนี้กันพอสังเขปกันก่อนดีกว่า ว่ามีความเป็นมาอย่างไร และมีการพัฒนาอะไรมาบ้างก่อนจะมาถึงปัจจุบัน

ทำความรู้จักกับ Boston Dynamics 


Boston Dynamics บริษัทสัญชาติอเมริกัน ที่งานหลักคือการวิจัย ออกแบบ และพัฒนาหุ่นยนต์ ก่อตั้งเมื่อปี 1992 ที่เกิดจากการวิจัยเล็ก ๆ ที่สถาบันเทคโนโลยี MIT และภายหลังแยกตัวออกมาเป็นบริษัท ปัจจุบันเป็นหนึ่งในบริษัทลูกของบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นอย่าง SoftBank 

เราลองมาดูผลงานตัวอย่างของบริษัท Boston Dynamics โดยผู้เขียนจะยกมาบางส่วนเพื่อให้เห็นถึงผลงานแต่ละอย่างก่อนจะมาเป็น Atlas และ Spot ที่เราเห็นในปัจจุบัน 

Atlas

มาถึงตัวเอกของงานอย่าง Atlas หุ่นยนย์รูปร่างมนุษย์ที่ถูกพูดถึงกันมากที่สุดจากทุกผลงานของ Boston ที่ไม่เพียงแต่เดิน กระโดด ปีน หรือใช้มือในการบีบจับ แต่ยังสามารถแสดงพฤติกรรมที่คล้ายกับอารมณ์โกรธแบบเดียวกับมนุษย์ออกมาได้อีกด้วย ซึ่งในอนาคตจะถูกใช้เป็นหุ่นยนต์ด้านกู้ภัยและค้นหาคนหาย


🏥 ข้อมูลและวีดีโอที่น่าสนใจของหุ่นยนต์ในงานอุตสาหกรรม
Xiaoyi หุ่นยนต์ตัวแรกที่สอบผ่านใบอนุญาตทางการแพทย์


Xiaoyi (เสี่ยวยี่) เป็น AI ตัวแรกที่สอบผ่านใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแพทย์ของจีน สามารถทำคะแนนสอบได้ 456 คะแนน จากคะแนนเต็ม 600 คะแนน สูงกว่าเกณฑ์ผ่านถึง 96 คะแนน


หนึ่งในทีมผู้คิดค้นระบุว่า Xiaoyi สามารถเก็บข้อมูลได้มากกว่ามนุษย์ ทั้งตำราเรียนแพทย์หลายสิบเล่ม เวชระเบียนข้อมูลสุขภาพของผู้ป่วยกว่า 2 ล้านชิ้น และบทความเกี่ยวกับการทดสอบการเป็นแพทย์กว่า 400,000 บทความ ประกอบกับการเป็นปัญญาประดิษฐ์ ทำให้ Xiaoyi สามารถเรียนรู้ ใช้เหตุผล และตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง

Xiaoyi ถูกพัฒนาขึ้นโดยมหาวิทยาลัยชิงหวาในกรุงปักกิ่ง และบริษัท iFlytek บริษัทด้านเทคโนโลยีของจีน เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมด้านสุขภาพ เช่น การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลผู้ป่วย และให้คำแนะนำแพทย์เพื่อช่วยให้วินิจฉัยโรคได้แม่นยำขึ้น


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สายพานลำเลียงและ รถ agv

  สายพานลำเลียงและ รถ AGV ระบบสายพานลำเลียงคืออะไร ? ระบบสายพานลำเลียง ( Belt Conveyor System)  คือ อุปกรณ์ลำเลียงที่ใช้สายพานเป็นส่วนปร...